ทำไมต้องใช้เก้าอี้ป้องกันไฟฟ้าสถิต/Why do we need ESD Chair?

โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อมนุษย์ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันที่มีการสัมผัสหรือเสียดสีกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว รวมถึงปัจจัยทางสภาพแวดล้อม ร่างกายจะมีการสะสมไฟฟ้าสถิต ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมดาในชีวิตประจำวัน แต่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การสะสมของไฟฟ้าสถิตสามารถสร้างความเสียหายต่ออุปกรณ์ที่มีความไวต่อกระแสไฟฟ้า เช่น วงจรอิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ และอุปกรณ์ไอที

ผลกระทบของไฟฟ้าสถิต

ไฟฟ้าสถิตที่สะสมในสถานที่ทำงานอาจมีผลกระทบที่รุนแรงต่ออุปกรณ์และกระบวนการผลิตในหลาย ๆ ด้าน เช่น:

• ความเสียหายต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: ไฟฟ้าสถิตสามารถทำให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์เกิดความเสียหายหรือเสื่อมสภาพได้ โดยเฉพาะในชิ้นส่วนที่มีความไวต่อกระแสไฟฟ้าสถิต เช่น ชิปคอมพิวเตอร์ หน่วยความจำ หรือแผงวงจรพิมพ์ (PCB) ซึ่งอาจทำให้เครื่องจักรหยุดทำงานหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้มีข้อบกพร่อง
• การทำลายอุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูง: ในอุตสาหกรรมที่มีความละเอียดและความแม่นยำสูง เช่น การผลิตอุปกรณ์การแพทย์ การวัดและการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ ไฟฟ้าสถิตอาจรบกวนการทำงานของเครื่องมือและอุปกรณ์ ทำให้ผลลัพธ์ไม่แม่นยำหรือทำให้การผลิตหยุดชะงัก
• ความเสี่ยงในด้านความปลอดภัย: ไฟฟ้าสถิตที่สะสมในโรงงานหรือห้องคลีนรูมอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีสารไวไฟหรือวัสดุที่สามารถติดไฟได้ ซึ่งไฟฟ้าสถิตอาจทำให้เกิดการจุดระเบิดหรือเพลิงไหม้ได้

ด้วยเหตุนี้ การป้องกันไฟฟ้าสถิตจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในสถานที่ทำงานที่ต้องจัดการกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ห้องคลีนรูม และโรงงานที่มีสารไวไฟ ซึ่งการป้องกันไฟฟ้าสถิตสามารถทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้:

• การควบคุมสิ่งแวดล้อม
  • รักษาความชื้นในอากาศ ควบคุมระดับความชื้นให้อยู่ที่ 40-60% RH เพื่อช่วยลดการสะสมของไฟฟ้าสถิต
  • ใช้เครื่องเพิ่มความชื้น (Humidifier) ในพื้นที่ที่มีอากาศแห้ง
• การเลือกใช้วัสดุที่ลดไฟฟ้าสถิต
  • หลีกเลี่ยงการใช้พื้นพรมหรือวัสดุพลาสติกที่ทำให้เกิดการเสียดสีและสะสมไฟฟ้าสถิต
  • ติดตั้งพื้นป้องกันไฟฟ้าสถิต (ESD Flooring) เช่น พื้นไวนิลป้องกันไฟฟ้าสถิต หรือพื้นยางนำไฟฟ้า
• การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ที่ช่วยถ่ายเทประจุไฟฟ้าได้ดี
  
  • เก้าอี้ป้องกันไฟฟ้าสถิต (ESD Chair) ช่วยลดไฟฟ้าสถิตที่เกิดจากการเสียดสีระหว่างเสื้อผ้าหรือร่างกาย และกระจายประจุออกไปผ่านระบบกราวด์
  • สายรัดข้อมือป้องกันไฟฟ้าสถิต (ESD Wrist Strap) ช่วยนำไฟฟ้าสถิตจากร่างกายไปยังระบบกราวด์โดยตรง
  • แผ่นรองโต๊ะป้องกันไฟฟ้าสถิต (ESD Table Mat) ช่วยถ่ายเทประจุไฟฟ้าสถิตจากเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้บนโต๊ะทำงาน
  • รองเท้าและสายรัดรองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิต (ESD Shoes & Heel Strap) ช่วยกระจายไฟฟ้าสถิตออกจากร่างกายลงสู่พื้น ESD
  • เสื้อผ้าที่ทำจากไนลอนหรือโพลีเอสเตอร์มีแนวโน้มสะสมไฟฟ้าสถิตได้ง่าย ควรเลือกใช้ผ้าฝ้ายแทน
• การควบคุมพฤติกรรม
  
  • หลีกเลี่ยงการเสียดสีหรือขยับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อลดอัตราการสะสมไฟฟ้าสถิต